สนาม: สถานีโทรทัศน์เฮยหลงเจียง
บทนำ: โพลเผยประชาชนชี้การเมืองไทยยังขัดแย้ง เชื่อ บิ๊กตู่ คุมสถานการณ์อยู่ จี้แจงเหตุเด้ง สมชัย กระทบภาพลักษณ์ คสช เพื่อไทย เรตติ้งวูบแต่ยังนำอันดับ 1 เหนือ ปชป คนเกินครึ่งเบื่อยังไม่เลือกพรรคใด หวังปฏิรูปเศรษฐกิจหลังเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 25 มีนาคม สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง การเมืองร้อนๆ ณ วันนี้ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการเมืองไทย จำนวนทั้งสิ้น 1,236 คน ระหว่างวันที่ 20-24 มีค สรุปผลได้ ดังนี้ 1กรณีการยื่นขอจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ จนถึงขณะนี้มีทั้งหมดกว่า 60 พรรค อันดับ 1 ร้อยละ 4159 อยากได้พรรคการเมืองที่ดี มีคุณภาพ เน้นทำประโยชน์เพื่อประชาชน, อันดับ 2 ร้อยละ 3927 ประชาชนมีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น มีทั้งพรรคเก่าและใหม่, อันดับ 3 ร้อยละ 3772 มีจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดความสับสน จำไม่ได้ 2กรณี สนชยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายลูก สว อันดับ 1 ร้อยละ 4000 อยากให้พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา ไม่ขัดกับกฎหมาย, อันดับ 2 ร้อยละ 3536 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้คนบางกลุ่มไม่พึงพอใจ, อันดับ 3 ร้อยละ 2810 อาจมีผลต่อการเลือกตั้ง เป็นการยื้อเวลา 3กรณีการโต้เถียงในประเด็นการเมืองต่างๆ ของแต่ละพรรคการเมือง อันดับ 1 ร้อยละ 5265 อยากให้โต้เถียงในเรื่องที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง, อันดับ 2 ร้อยละ 293 เป็นเกมการเมือง ต้องการให้เกิดเป็นกระแส, อันดับ 3 ร้อยละ 1917 ได้เห็นท่าที แนวคิดของแต่ละพรรค ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร 4กรณี คสชใช้ ม44 ให้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นจากตำแหน่ง กกต อันดับ 1 ร้อยละ 3924 ควรมีการชี้แจงเหตุผล ที่มาที่ไปให้สังคมได้รับรู้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง, อันดับ 2 ร้อยละ 3272 เป็นการใช้อำนาจมากเกินไป ควรคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา , อันดับ 3 ร้อยละ 3246 กระทบต่อภาพลักษณ์ของ คสช มีผลต่อความเชื่อมั่น 5จากกรณีเหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ เหล่านี้ ประชาชนคิดว่าสะท้อนการเมืองไทยอย่างไรบ้าง?อันดับ 1 ร้อยละ 5687 ยังมีความขัดแย้ง แบ่งพรรคแบ่งพวก เห็นแก่อำนาจและผลประโยชน์, อันดับ 2 ร้อยละ 4435 การเมืองไทยขาดเสถียรภาพ ทำให้ประเทศไม่พัฒนา, อันดับ 3 ร้อยละ 3032 ควรมีการเลือกตั้ง ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมและตัดสินใจด้วยตนเอง 6ประชาชนคิดว่า พลอประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสชและนายกรัฐมนตรี จะควบคุมสถานการณ์ (เอาอยู่) หรือไม่? อันดับ 1 ร้อยละ 5121 เห็นว่าเอาอยู่ เพราะมีอำนาจพิเศษ มีกำลังทหาร เด็ดขาด ตั้งใจที่จะแก้ปัญหา น่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ฯลฯ, อันดับ 2 ร้อยละ 2961 ไม่แน่ใจ เพราะต้องรอดูต่อไป ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหว ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ, อันดับ 3 ร้อยละ 1918 เอาไม่อยู่เพราะบ้านเมืองมีปัญหาหลายด้าน แก้ไขได้ยาก มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ประชาชนขาดความเชื่อมั่น ฯลฯ กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง อนาคตพรรคการเมืองกับความหวังคนไทยในการเลือกตั้ง เก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,192 คน พบว่า ร้อยละ 654 เห็นว่าสถานการณ์ที่เปิดให้ยื่นแจ้งเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 2 มีคที่ผ่านมา ช่วยสร้างทางเลือกใหม่ๆ ให้ประชาชนเยอะขึ้น รองลงมาร้อยละ 393 เห็นว่าช่วยทำให้การเมืองคึกคักขึ้น/บรรยากาศเข้าสู่การเลือกตั้ง และร้อยละ 287 เห็นว่ามีพรรคการเมืองเยอะไปทำให้เสียงแตก เมื่อถามว่า ท่านคาดหวังอยากได้พรรคการเมืองแบบไหน ส่วนใหญ่ร้อยละ 650 อยากให้มีสมาชิกพรรคที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายแขนง รองลงมาร้อยละ 432 อยากให้มีนโยบายใหม่ๆ ที่พลิกโฉมประเทศ และร้อยละ 357 อยากให้สานต่อนโยบายพลอประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เช่น ปฏิรูปประเทศ ปราบทุจริต สำหรับสิ่งที่หวังและรอคอยอยากจะเห็นภายหลังการเลือกตั้งที่จะถึง พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 786 อยากเห็นการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ รองลงมาร้อยละ 646 อยากเห็นการปฏิรูปด้านสังคม กระบวนการยุติธรรม การศึกษา และร้อยละ 408 อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงระบบราชการ ด้านคะแนนนิยมต่อพรรคการเมือง พบว่า พรรคเพื่อไทยอยู่ที่ร้อยละ 143 (ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพค2560 ร้อยละ 35) รองลงมาคือพรรคประชาธิปัตย์ที่มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 122 (ลดลงร้อยละ 34) และพรรคอนาคตใหม่ มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 39 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ประชาธิปไตยกับการเลือกพรรค กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 1,047 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15-24 มีค ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 608 รู้เข้าใจประชาธิปไตย บอกได้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร ในขณะที่ร้อยละ 392 ไม่รู้ ไม่ทราบ และเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่เลือกแล้วในใจ พบว่าก้ำกึ่งกัน คือร้อยละ 489 เลือกพรรคในใจแล้ว ขณะที่ร้อยละ 511 ไม่เลือกพรรคใด เพราะเบื่อ ไม่เชื่อใจ ดีเฉพาะหาเสียง ถอนทุนคืน โกง เลือกมาก็เหมือนเดิม ไม่มีใครทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติแท้จริง ไม่ชอบพวกกร่าง อยู่ใต้อิทธิพล ที่น่าสนใจคือ คนรายได้น้อยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 526 เลือกพรรคในใจแล้ว แต่คนรายได้มากส่วนใหญ่หรือร้อยละ 614 ไม่เลือกพรรคใด และเมื่อจำแนกตามกลุ่ม พบว่าคนที่ไม่รู้ ไม่ทราบประชาธิปไตย ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 525 เลือกพรรคในใจแล้ว แต่คนที่รู้เข้าใจประชาธิปไตย ร้อยละ 533 ไม่เลือกพรรคใด ที่น่าพิจารณาคือ ความต้องการของประชาชนต่อรัฐบาล และ คสช ให้ทำเพื่อคืนความสุขประชาชน พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 689 ต้องการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี รักษาโรคฟรี คืนมา คืนความสุขประชาชน รองลงมาร้อยละ 665 ให้แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานรัฐ โกงเงินคนจน ขอให้เยียวยาคนจน, ร้อยละ 632 ความปลอดภัยทางถนน ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน, ร้อยละ 624 ให้แก้ปัญหายาเสพติด จัดระเบียบสังคม สถานบันเทิง หวยเกินราคา รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตู้ เหมือนตอนรัฐบาลเข้ามาใหม่ๆ เป็นต้น...
สนาม: ตอบทุกคำถาม
บทนำ:วงจรปิดมัดโจรร่างท้วมตระเวนเผารถคืนเดียววอด5คัน-ตำรวจเร่งไล่ล่า (ชมคลิป) 26 มีนาคม พศ 2561 เวลา 08:11 น26 มีค 61 - เมื่อเวลา 0430 นที่ผ่านมา พตทนันทพนธ์ นาในบุญ สว( สอบสวน ) สภพานทอง ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถ 2 คัน ที่ริมถนนศุขประยูรขาเข้า จชลบุรี หมู่ 2 ตหนองกะขะ อพานทอง จชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงจาก อบตพานทอง - หนองกะขะ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 94/4 - 94/5/ - 94/6 จำนวน 3 ห้อง มีรอยไฟไหม้หน้าประตูเหล็ก
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-04-15